การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมในทุกสาขา โดยธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประเภทบ้าน รวมทั้งที่อยู่อาศัยประเภทต่าง ๆ ในประเทศไทย ได้รับผลกระทบเชิงลบค่อนข้างรุนแรง ผู้สันทัดกรณีในวงการอสังหาริมทรัพย์คาดกันว่า พิษของโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อการซื้อขายที่อยู่อาศัยยาวไปถึงสิ้นปี พ.ศ. 2563

กำไรครึ่งปีทรุดกว่า 55%

สำหรับสถานการณ์การซื้อขายที่อยู่อาศัยช่วง 6 เดือนแรก (มกราคม-มิถุนายน) ปี 2563 ปรากฏว่าบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 36 บริษัท ซึ่งครองส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 70% มีรายได้รวม 143,202.37 ล้านบาท ลดลง 19.27% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (2562) คิดเป็นกำไรสุทธิ 10,714.80 ล้านบาท ลดลงถึง 55.11% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

เฉพาะผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 (เมษายน-มิถุนายน) ทั้ง 36 บริษัทมีรายได้รวม 72,822.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.39% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่มีกำไรสุทธิเพียง 4,191.53 ล้านบาท ลดลงถึง 54.34%

ส่วนแนวโน้มรวมตลอดปี 2563 ศูนย์วิจัยกรุงศรีคาดว่า การเปิดขายโครงการใหม่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งเป็นพื้นที่ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ใหญ่ที่สุดของประเทศ จะลดลง 26.0% ขณะที่ยอดขายล่วงหน้า (Pre-sale) จะลดลง 17.0% ส่วนยอดโอนกรรมสิทธิ์คาดว่าจะลดลง 24.3%

คาดธุรกิจฟื้นตัวปี 2564

ศูนย์วิจัยกรุงศรีคาดว่า ในปี 2564-2565 ตลาดที่อยู่อาศัยมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5.0% จากการมีปัจจัยหลายอย่างสนับสนุน ได้แก่

• ภาวะเศรษฐกิจที่คาดว่าจะทยอยฟื้นตัวดีขึ้น
• ผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อมากขึ้น ทำให้สามารถซื้อที่อยู่อาศัยได้
• การลงทุนทำโครงการใหญ่ระดับเมกะโปรเจ็กต์ของภาครัฐ
• การขยายตัวด้านการลงทุนในเขตเศรษฐกิจการลงทุนพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC)
• ความต้องการที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุน รวมทั้งเข้ามาทำงานในไทย